
หลานๆ เคยสงสัยไหมว่า
ทำไมถึงต้องดูค่า BMI หรือดัชนีมวลกาย
ตอนที่ทำประกันด้วยนะ❓
แล้วค่าดัชนีมวลกาย BMI
เป็นตัวบ่งชี้อะไรได้บ้าง
ไปดูกันเลย 😊
🔻การคำนวณค่าดัชนีมวลกาย BMI (Body Mass Index) คือ ตัวชี้วัดมาตรฐานเพื่อประเมินสภาวะของร่างกายว่า มีความสมดุลของน้ำหนักตัวต่อส่วนสูงอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมหรือไม่
👉 นอกจากเราได้ทราบถึงรูปร่างและสัดส่วนแล้ว
ยังทำให้เราทราบถึงความเสี่ยงการเกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย
✅ ดังนั้น ค่า BMI สามารถใช้เป็นเครื่องมือคัดกรอง
เพื่อระบุผู้ที่มีน้ำหนักเกิน หรือภาวะอ้วน และผู้ที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานในผู้ใหญ่ที่อายุ 20 ปีขึ้นไป
🔻โดยค่า BMI จะคำนวณจาก
ค่าของน้ำหนักตัวหน่วยเป็นกิโลกรัม แล้วหารด้วยส่วนสูงหน่วยเป็นเมตร ยกกำลัง 2 และแสดงในหน่วย กก./2
*ดัชนีมวลกาย (BMI) = น้ำหนักตัว (กิโลกรัม) / ส่วนสูง (เมตร)^2
โดยสามารถแปลอ่านผลค่า BMI ได้ดังนี้
ค่า BMI < 18.5 อยู่ในเกณฑ์น้ำหนักน้อยหรือผอม
ค่า BMI 18.5 – 22.90 อยู่ในเกณฑ์ปกติ
ค่า BMI 23 – 24.90 น้ำหนักเกิน
ค่า BMI 25 – 29.90 โรคอ้วนระดับที่ 1
ค่า BMI 30 ขึ้นไป โรคอ้วนระดับที่ 2
ในกรณีที่มีค่าดัชนีมวลกายสูง และถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะน้ำหนักเกินหรือเป็นโรคอ้วน
⚠️ก็อาจทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพมากมาย
ได้แก่ โรคความดันโลหิตสูง ระดับโคเลสเตอรอล
และระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูง
โรคเบาหวานชนิดที่ 2 โรคหลอดเลือดหัวใจ
โรคหลอดเลือดสมอง โรคเกี่ยวกับถุงน้ำดี โรคข้อเข่าเสื่อม ภาวะการหยุดหายใจขณะหลับหรือปัญหาในการหายใจ และโรคมะเร็งชนิดต่าง ๆ
🔸ดังนั้น บริษัทประกันอาจจะพิจารณารับประกันภายใต้เงื่อนไข เพิ่มค่าเบี้ยความเสี่ยงจากค่า BMI ที่สูง-ต่ำกว่าปกติ หรืออาจไม่รับประกัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงโดยพิจารณาจากโรคที่เป็นยังรักษา หาหมออยู่ด้วยนะคะ
หากหลานๆ คนไหนสงสัยว่า แล้วหนูจะทำได้ไหมคะ
ประกันชีวิต ประกันสุขภาพ ประกันโรคร้ายแรง
แนะนำให้มาพูดคุย ความต้องการกับเจ้าป้าดูน้า