
หากหลานเคยเจอปัญหานี้ ลองมาดูกันนะคะ
ว่าจะต้องทำอย่างไรกันบ้าง ❤️
📞หลานๆ หลายคนคงเคยได้รับสายจากเจ้าหน้าที่บริษัทประกัน มาเสนอขายประกันให้กับเราผ่านทางโทรศัพท์กันบ้าง โดยเจ้าหน้าที่จะแนะนำตัวเอง ว่าติดต่อจากบริษัทประกันอะไร และประกันที่เสนอขายเป็นแบบไหน
👉หลังจากได้ฟังข้อเสนอแล้ว หลานสามารถถามได้ทันที และการตอบ “ตกลง” นั้นผ่านทางโทรศัพท์จะบันทึกเสียงเป็นหลักฐานว่ายินยอม และตกลงตามเงื่อนไข
แต่ด้วยเวลาที่สั้นทำให้มีโอกาสที่จะอธิบายไม่ครบถ้วน และเนื่องจากไม่ได้เห็นเอกสาร ไม่มีเวลาที่จะคิดให้รอบครอบ หลานหลายคนเลยมีปัญหาในการตอบ “ตกลง” ไปทั้งที่ไม่เข้าใจ หรือหลวมตัวซื้อนะคะ 🥹
⁉️แต่หากหลานไม่อยากทำ หรือได้ตอบตกลงทำประกันทางโทรศัพท์ไปแล้ว สามารถขอยกเลิกได้ 3 วิธี คือ
1) แบบยังไม่ได้ตอบตกลงทำสัญญา
2) แบบตกลงทำสัญญา แต่บอกเลิกภายใน 30 วัน หลังรับเล่มกรมธรรม์
3) แบบตกลงทำสัญญา ต้องการบอกเลิกภายหลังรับเล่มกรมธรรม์ 30 วัน
1. ไม่ได้ตอบตกลงทำสัญญา
🔻หากไม่ต้องการทำประกันภัยให้ขอวางสายทันที โดยบริษัทประกันจะไม่สามารถโทรกลับมาเสนอขายอีกเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 6 เดือนตั้งแต่วันที่โดนปฎิเสธนะคะ แล้วถ้าตัวแทนประกันไม่ยอมวางสาย ให้ขอชื่อ – นามสกุล และชื่อบริษัทประกัน เพื่อแจ้งต่อ คปภ.ค่ะ โดยหลานมีสิทธิสอบถามตัวแทนประกันว่า ได้ข้อมูลเกี่ยวกับตนเองมาได้อย่างไร
ทั้งนี้ การเสนอขายประกันผ่านทางโทรศัพท์ ทำได้ในวันจันทร์ ถึงวันเสาร์ ระหว่างเวลา 8.30-19.00 น. ยกเว้นกรณีที่ยินยอมนัดหมายล่วงหน้า หากโทรเกินเวลา จดชื่อและเลขที่ใบอนุญาตของตัวแทนแจ้งต่อ คปภ. ได้ค่ะ
2. ตกลงทำสัญญา แต่ต้องการบอกเลิกภายใน 30 วัน หลังรับเล่มกรมธรรม์
🔻ถ้ายังไม่ได้รับกรมธรรม์ สามารถบอกเลิกได้ตลอดเวลา (ระยะก่อน Freelook) แต่หากได้รับแล้ว สามารถขอยกเลิกได้ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับกรรมธรรม์ (ระยะ Freelook)
หรือทำจดหมายบอกเลิกสัญญาพร้อมแนบกรรมธรรม์ประกันชีวิตส่งเป็นไปรษณีย์ลงทะเบียนถึงบริษัทที่รับประกันภัย หากชำระเบี้ยประกันเป็นเงินสดหรือกรณีชำระผ่านบัตรเครดิต ให้แนบสำเนาบอกเลิกสัญญาแจ้งไปยังบริษัทบัตรเครดิต บริษัทประกันต้องคืนเงินทั้งหมดภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่แจ้งยกเลิกค่ะ แต่หากบริษัทประกัน ปฎิเสธการยกเลิกประกัน ไม่คืนเงิน หลานสามารถร้องเรียนได้ที่ คปภ. นะคะ
3. ตกลงทำสัญญา แต่ต้องการบอกเลิกภายหลัง 30 วัน หลังได้รับกรมธรรม
🔻หากต้องการยกเลิกประกันหลังได้รับกรมธรรม์เกินกว่า 30 วัน สามารถทำได้ แต่จะไม่ได้รับค่าเบี้ยที่จ่ายไปคืนเต็มจำนวน จะได้คืนหรือไม่หรือจะได้คืนมากน้อย
ขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินสด หรือมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ตามที่ระบุท้ายสัญญา โดยมากมักจะน้อยกว่าค่าเบี้ยประกันที่จ่ายไป หากส่งค่าเบี้ยหลายงวด ควรพิจารณาให้ดีถึงความคุ้มค่านะคะ
🔸สรุปจ้า🔸
ก่อนหลานๆ ตัดสินใจซื้อประกันชีวิต จะต้องทราบว่า ต้องจ่ายค่าเบี้ยเป็นระยะเวลาเท่าไหร่ แลกกับการความคุ้มครอง และต้องเข้าใจว่า หากหลานส่งเบี้ยไม่ได้ตามกำหนด หรือคืนกรมธรรม์ก่อนกำหนด
เงินที่ได้รับจะไม่คุ้มกับค่าเบี้ยที่ส่งไป ดังนั้น ไม่ว่าจะทางโทรศัพท์ หรือผ่านตัวแทน ควรตัดสินใจให้ดี ให้มั่นใจว่า หลานเข้าใจจริงว่าซื้อเพื่ออะไร ส่งเบี้ยไหวไหม และระยะเวลาแค่ไหน ที่ได้รับเงินและความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุดนะคะ