มีประกันอยู่แล้วหลายฉบับ

มีประกันอยู่แล้วหลายฉบับ
แต่ไม่รู้ว่าที่มีนั้นลดหย่อนภาษีได้ทั้งหมดไหม
แล้วต้องดูอย่างไร ไปดูกันเลย 🫠

หลานหลายๆ คน ได้เห็นถึงความสำคัญ
ของการทำประกัน จึงตัดสินใจ
ทำกรมธรรม์ไว้หลายเล่ม😊

แต่ก็สับสนว่า ที่ทำไปมากมายนั้น
สามารถนำไปลดหย่อนภาษี
ทั้งหมดได้ไหมนะ❓

เจ้าป้ามีวิธีแนะนำให้หลานๆ ดู ดังนี้

🔻ประกันที่ยังชำระเบี้ยอยู่

เบี้ยประกันที่สามารถนำไปลดหย่อนได้นั้น
คือเบี้ยประกันที่ชำระในปีภาษีนั้นๆ
โดยชำระเป็นรายปี สามารถนำไปลดหย่อนได้ทั้งหมด

ส่วนการชำระแบบราย 6/3 หรือรายเดือน
จะลดหย่อนได้เฉพาะที่ชำระภายใน 31 ธันวาคม
ของปีภาษีเท่านั้น

🔻แยกประเภทของประกัน

✅ ประกันชีวิต ประกันสะสมทรัพย์
สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 100,000 บาท โดยประกัน ต้องคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป เวนคืนหรือยกเลิกก่อนไม่ได้นะคะ
✅ ประกันควบการลงทุน Unit Link
สามารถลดหย่อนได้เฉพาะส่วนของ ค่าการประกันภัย ค่าธรรมเนียม ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ค่าดำเนินการ ค่าบริหารกองทุน ซึ่งแต่ละเดือนจะจ่ายไม่เท่ากัน ส่วนที่ลงทุนไม่สามารถนำไปลดหย่อนได้นะคะ
✅ เบี้ยประกันสุขภาพ ส่วนตัว
ประกันสุขภาพ รวมถึงประกันอุบัติเหตุที่คุ้มครองสุขภาพ สามารถลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 25,000 บาท และเมื่อรวมกับเบี้ยประกันชีวิตทั่วไปแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท และทำกับบริษัทประกันชีวิตที่เปิดในไทยค่ะ หลานๆ จึงควรระวังบางแบบประกันว่า อยู่ในหมวดใด มีส่วนของชีวิต สุขภาพรวมกันไหม และใช้เกินสิทธิ์หรือไม่
✅ เบี้ยประกันสุขภาพบิดามารดา
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่รวมกัน ไม่เกิน 15,000 บาท และสามารถรวม ประกันสุขภาพพ่อแม่ของคู่สมรสมาลดหย่อน ภาษีได้ ในกรณีที่คู่สมรสไม่มีรายได้ ค่ะและตัวเราต้องเป็นลูกแท้ๆ พ่อแม่มีรายได้ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปี ที่อยู่ในไทยมากกว่า 180 วัน ในปีนั้นๆ ค่ะ
✅ เบี้ยประกันชีวิตแบบบำนาญ
ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 15% ของรายได้รวมทั้งปี และต้องไม่เกิน 200,000 บาท หรือต้องไม่เกิน 300,000 บาท หากไม่มีการลดหย่อนภาษีด้วยเบี้ยประกันชีวิต
และเมื่อรวมกับหมวดการลงทุนเพื่อการเกษียณ ต้องไม่เกิน 500,000 บาท ค่ะ จะเห็นได้ว่า ประกันแต่ละแบบ จะลดหย่อนได้ไม่เท่ากัน และบางแบบจะต้องคิดจำนวณเบี้ยรวมกัน

🔻การยื่นเอกสารประกันเพื่อการลดหย่อนภาษี

ควรตรวจสอบรายละเอียด และเงื่อนไขกับบริษัทประกันก่อนซื้อ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีนั้น เป็นผลประโยชน์ตอนทำประกันเพิ่มเติม
ที่ควรดูเรื่องเอกสารเป็นหลัก หากต้องการส่งเอกสารให้กรมสรรพากร จะสามารถเลือกได้แบบออนไลน์ โดยกรอกแบบฟอร์มแจ้งความประสงค์ของแต่ละบริษัท เพื่อเปิดเผยข้อมูลของหลานต่อสรรพากรได้ หรือขอเอกสารเพื่อนไไปยื่นเองในปีหน้าค่ะ

📌สรุป📌

การทำประกันหนึ่งฉบับนั้น ควรพิจารณาจากความคุ้มครอง และสิทธิ์ประโยชน์เพิ่มเติมเรื่องภาษี ดังนั้น หลานๆ ควรจะต้องศึกษาข้อกำหนดต่างๆ อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตตามประกาศได้
แต่หากหลานสงสัย ไม่แน่ใจสามารถให้เจ้าป้าเป็นผู้ให้คำปรึกษาหลานๆ ได้ตลอดเวลานะคะ 💙