วางแผนคีย์แมน


ภาษีคีย์แมน
การวางแผนภาษีนิติบุคคล โดยใช้กรมธรรม์ประกันชีวิตเป็นเครื่องมือเพิ่มค่าใช้จ่ายให้บริษัทได้. มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม แต่ทำให้กำไรเพิ่มได้ ถูกต้องตามหลักการทำบัญชี ปรึกษาทีมผู้เชี่ยวชาญได้.
• คนที่เป็นหัวเรือหลักของธุรกิจส่วนใหญ่มักเป็นกรรมการ ที่ถูกเรียกว่า KEYMAN
ซึ่งหากเกิดเหตุไม่คาดฝันย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ดังนั้นการมีประกัน KEYMAN จะช่วยลดผลกระทบจากความเสี่ยงตรงจุดนี้
• บุคคลที่เป็น KEYMAN จะได้ประโยชน์หลักในเรื่องความคุ้มครอง ส่วนบริษัทสามารถนำค่าใช้จ่ายนี้
ไปลดหย่อนภาษีนิติบุคคลได้ โดยต้องเป็นค่าเบี้ยประกันของกรมธรรม์ที่มีความคุ้มครอง 10 ปี
ขึ้นไปและเบี้ยประกันที่บริษัทจ่ายให้ต้องไม่เกิน 5% ของรายได้ทั้งปี หรือ ไม่ควรเกิน 20% ของกำไรสุทธิ
• เงินชดเชยจากกรมธรรม์ประกันชีวิตนี้สามารถช่วยธุรกิจให้อยู่รอดได้โดยสามารถนำไปต่อยอดทางธุรกิจ
ขยายกิจการ ชำระหนี้ สต็อกสินค้าเพื่อเตรียมการขาย หรือเป็นมรดกให้ลูกหลานของ KEYMAN เป็นต้น
แล้ว KEYMAN คือใคร?
โดยทั่วไปธุรกิจมักเป็นแบบเจ้าของคนเดียว หรือมีหุ้นส่วนเป็นคนใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวที่ร่วมกันสืบทอดกิจการมาจากคนรุ่นก่อน
เพื่อนสนิทที่ร่วมก่อตั้งธุรกิจมาด้วยกัน โดยลักษณะของ KEYMAN คือบุคคลที่เป็นหัวเรือหลักของธุรกิจ หากขาดคนๆ นี้ไปธุรกิจอาจหยุดชะงัก ไม่มีใครสามารถตัดสินใจแทนได้ในระหว่างที่ KEYMAN ไม่อยู่ ซึ่งโดยปกติ KEYMAN มักมีชื่อเป็นกรรมการบริษัท

ดังนั้นหากเกิดเหตุไม่คาดฝันกับ KEYMAN ย่อมส่งผลกระทบต่อกิจการ แต่เราก็สามารถจัดการความเสี่ยงเพื่อบรรเทาผลกระทบนี้ลงได้
โดยสามารถทำได้ตั้งแต่การสร้างมือรองหรือทายาทรุ่นต่อไป ให้พร้อมรับช่วงธุรกิจต่อได้ทันที แต่หากประเมินแล้วมือรองยังรับช่วงต่อได้ไม่เต็มที่
เช่น ความสัมพันธ์ของคู่ค้ายังผูกติดกับ KEYMAN อยู่ หรือการหาแหล่งเงินทุน เช่น การขอสินเชื่อกับธนาคาร
ยังต้องอาศัยประสบการณ์และความน่าเชื่อถือของ KEYMAN รวมไปถึงหาก KEYMAN จากไปทำให้รายได้ธุรกิจลดลงจนส่งผลกระทบต่อแหล่งรายได้
ของผู้ถือหุ้นหรือสมาชิกในครอบครัวของกลุ่มเจ้าของธุรกิจ (เช่น ธุรกิจกงสี) การมีประกัน KEYMAN
เพื่อมีเงินก้อนให้กับธุรกิจหรือสมาชิกครอบครัวของ KEYMAN ก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญ
ประกัน KEYMAN มีประโยชน์อย่างไร?
ประกัน KEYMAN คือ ประกันชีวิต ที่บริษัทหรือกิจการเป็นผู้ชำระเบี้ยประกันโดยมี KEYMAN หรือบุคคลสำคัญของกิจการเป็นผู้เอาประกัน และการทำประกันที่ว่าต้องทำให้กับทุกคนที่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัท
โดยผู้รับผลประโยชน์กรณี KEYMAN เสียชีวิต อาจเป็นสมาชิกของคนในครอบครัว KEYMAN หรือบริษัทที่เป็นผู้ชำระเบี้ยก็ได้
- แยกบัญชีรับจ่ายให้ชัดเจน
- วางแผนการหักค่าใช้จ่าย
- บริหารค่าลดหย่อน


สรุป
- กิจการจะได้รับผลกระทบขนาดไหนหากบุคคลซึ่งเป็น KEYMAN จากไปอย่างกะทันหัน เทียบกับค่าเบี้ยประกันที่ต้องจ่ายและสามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายบริษ้ทได้
- การแสดงความห่วงใยต่อครอบครัว KEYMAN ด้วยการทำให้ประกันให้กับกรรมการบริษัท และให้ญาติเป็นผู้รับผลประโยชน์เงินก้อนโตจากประกันนั้น
ด้วยค่าเบี้ยรายปีเพียงไม่กี่บาท ที่สามารถหักเป็นค่าใช้จ่ายบริษัทได้เช่นกัน
ดังนั้นบริษัทควรจะทำประกัน KEYMAN หรือไม่ให้เจ้าป้าเป็นคนช่วยให้คำแนะนำนะคะ

